ผลการหยั่งเสียงขั้นต้น หรือไพรมารีโหวตที่มลรัฐนิว แฮมเชียร์ เขย่าการเลือกตั้งประธานาธิ บดีสหรัฐ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้คะแนนนำในส่วนขอ...
ผลการหยั่งเสียงขั้นต้น หรือไพรมารีโหวตที่มลรัฐนิว
แฮมเชียร์ เขย่าการเลือกตั้งประธานาธิ
บดีสหรัฐ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้คะแนนนำในส่วนของพรรครีพ
ับลิกัน ขณะที่ฝั่งเดโมแครต นายเบอร์นี แซนเดอร์ส เอาชนะนางฮิลลารี คลินตันไปได้ โดยที่นายทรัมป์นั้นได้คะแน
นเหนือกว่าผู้ชนะฝั่งพรรคเด
โมแครตถึงเกือบสองเท่
...า ขณะที่นายแซนเดอร์สระบุว่าการที่เขาเอาชนะฮิลลารี คลินตันได้ด้วยคะแนนทิ้งขาดนั้นสะท้อนว่าประชาชนต้องการ “การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง”
นิวแฮมเชียร์ เป็นรัฐที่สองที่จัดการเลือกตั้งไพรมารีโหวต เพื่อเลือกตัวแทนของพรรคการเมืองต่างๆ ลงชิงชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีไพรมารีโหวตด้วยวิธีการแบบคอคัส ที่รัฐไอโอวา ซึ่งนาย เท็ด ครูซ และนางคลินตันได้รับคะแนนนำ
ผู้สมัครที่ได้ชัยชนะที่นิวแฮมเชียร์นั้นมากับกระแสความไม่พอใจการเมืองกระแสหลัก ผลการเลือกตั้งของนิวแฮมเชียร์ได้ส่งแรงกระเพื่อมทางการเมืองไปยังรัฐต่อไปซึ่งได้แก่เซาท์แคโรไลนา และเนวาดา
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะนี้มีอายุ 69 ปี ไม่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาก่อน เขาเคยกล่าวว่าต้องขับผู้อพยพที่อยู่ในสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมายออกจากประเทศ และสร้างกำแพงตลอดแนวพรมแดนระหว่างสหรัฐกับแมกซิโก รวมถึงได้เสนอให้ห้ามชาวมุสลิมเข้าประเทศชั่วคราวด้วย
ในฝั่งของพรรคเดโมแครตนั้น นายแซนเดอร์ส ซึ่งเป็นนักสังคมนิยมประชาธิปไตยวัย 74 ปี ได้รับคะแนนเสียงเหนือกว่านางคลินตันที่ตามมาเป็นอันดับสอง ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ โดยเขาปฏิญาณว่าจะกำจัดปัญหารายได้ที่ไม่เท่าเทียม การให้การศึกษาฟรีในระดับมหาวิทยาลัย และการทำลายธนาคารขนาดใหญ่ และระบุว่าชัยชนะของเขาในรัฐนิวแฮมเชียร์คือการที่ประชาชนกำลังบอกว่าเป็นเรื่องสายเกินไปแล้วสำหรับกลุ่มอำนาจเดิมทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจในการรับมือกับวิกฤตต่างๆ ที่ประเทศต้องเผชิญ
นางคลินตันแสดงความยินดีกับนายแซนเดอร์ส แต่กล่าวด้วยว่า เธอยังคงสู้อย่างต่อเนื่องในทุกๆ การลงคะแนน และแม้ความนิยมจะลดลงแต่เธอยังคงอยู่ในแถวหน้าของผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี