เมื่อวันที่ 7 ก.พ. “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญของน...
โดยประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 75.05 มองว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองโดยตรง เป็นเรื่องผลประโยชน์ การได้เปรียบเสียเปรียบ ทำให้นักการเมืองออกมาวิพากษ์วิจารณ์การร่างรัฐธรรมนูญ รองลงมาร้อยละ 62.58 เห็นว่าเป็นเรื่องปกติ เป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้แต่จะต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม และร้อยละ 58.35 ขอให้นักการเมืองแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่เป็นประโยชน์ สร้างสรรค์และบริสุทธิ์ใจ
ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 43.48 ระบุไม่ค่อยเชื่อคำวิพากษ์วิจารณ์ของนักการเมืองที่ออกมาพูดเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว พูดจากมุมมองของตนเอง เป็นห่วงเรื่องผลประโยชน์ทางการเมือง
ขณะที่ร้อยละ 25.96 ระบุไม่เชื่อ เพราะการเมืองเป็นเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ กลัวการได้เปรียบเสียเปรียบกันมากกว่า ร้อยละ 22.40 ค่อนข้างเชื่อ เพราะเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศ น่าเชื่อถือ ติดตามการร่างรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด และร้อยละ 8.16 ระบุเชื่อมาก เพราะป็นผู้ที่มีประสบการณ์ รู้และเข้าใจปัญหาบ้านเมืองเป็นอย่างดี ชี้ให้เห็นข้อดี-ข้อเสียของกฎหมาย เมื่อถามว่าประชาชนเชื่อหรือเห็นด้วยกับการวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญของนักการเมืองที่ชื่นชอบมากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่ร้อยละ 36.87 ไม่ค่อยเชื่อ เพราะเป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีนักการเมืองออกมาวิพากษ์วิจารณ์ รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก ขณะที่ร้อยละ 30.50 ค่อนข้างเชื่อ เพราะเป็นคนเก่ง มีความรู้ความสามารถ คนส่วนใหญ่ให้การยอมรับ มีประสบการณ์ทางการเมืองมานาน และร้อยละ 22.00 ไม่เชื่อ เพราะเป็นเกมการเมือง เป็นบทบาทของนักการเมืองอย่างหนึ่งที่จะต้องออกมาสร้างกระแส
เมื่อถามว่าประชาชนเชื่อบุคคลหรือหน่วยงานใดที่วิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 77.06 ระบุเชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รองลงมาร้อยละ 74.59 นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และร้อยละ 66.47 นักวิชาการ/อาจารย์ด้านนิติศาสตร์/ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย
ภาพและข่าวจาก : มติชนออนไลน์
