"หลวงปู่พุทธะอิสระ" โต้ "พระเมธีฯ" ไม่มีสำนึก ยิ่งค้านขั้นตอนผู้ตรวจการฯ มันบ่งบอกถึงความกระสันต์อยากได้อำนาจ "...
"หลวงปู่พุทธะอิสระ" โต้ "พระเมธีฯ" ไม่มีสำนึก ยิ่งค้านขั้นตอนผู้ตรวจการฯ มันบ่งบอกถึงความกระสันต์อยากได้อำนาจ "แค่สมเด็จช่วงไม่นั่งสังฆราช พระธรรมวินัยอยู่ไม่ได้เชียวหรือ" -ยกม.7 พรบ. สงฆ์ปี 2505 “พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช” ไม่ใช่ตะแบงมั่วซั่ว อ้างมติมส.แสนอัปยศ
วันนี้ ( 6 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ อดีตแกนนำกปปส. ได้แสดงความเห็นตอบโต้ จากกรณีที่พระเมธีธรรมาจารย์ ไม่พอใจผู้ตรวจการแผ่นดิน แจงขั้นตอนแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ต้องผ่านการเสนอชื่อจากนายกรัฐมนตรีก่อนส่งเรื่องให้มส.เห็นชอบ
พร้อมระบุว่า "เห็นพฤติกรรมของภิกษุผู้มักมากทะยานอยากจนเอ่อล้นออกมา เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของพระธรรมวินัยและสังคมได้รับรู้เวลานี้ ยิ่งเห็นยิ่งเวทนานัก มันจะอะไรกันนักหนาล่ะบรรดาอาเสี่ยอาเฮียทั้งหลาย เมื่อผู้ตรวจการเขาตรวจสอบและบอกว่ามติที่ มส. ออกมามันผิดกฎหมาย แล้วทำไมเฮียๆ จึงตะแบงอยากได้ตำแหน่งอะไรกันขนาดนั้น ถามพวกเฮียจริงๆ เถิด บวชกันเข้ามาเพื่ออะไรยางอายน่ะมีไหม ทำตัวอย่างกับพวกตายอดตายอยากมาจากขุมไหน เหมือนกับว่าถ้าสมเด็จช่วงไม่ได้ตำแหน่งสังฆราช พระธรรมวินัยจะอยู่ไม่ได้
อ้อ... แต่ลืมไป เราประเมินพวกเฮียสูงไป คนอย่างพวกเฮียไม่เคยเห็นพระธรรมวินัยอยู่ในสำนึกอยู่แล้ว เพราะถ้ามีสำนึก คงไม่หน้าด้านพากันออกมาเรียกร้องขอตำแหน่งกันอยู่อย่างนี้หรอก ยางอายน่ะเคยมีไหม ผ้าเหลืองที่สวมใส่อยู่น่ะไม่ได้ช่วยให้ปลงอะไรๆ กันได้บ้างเลยหรืออย่างไร
และขอบอกให้พวกเฮียได้เข้าใจชัดๆ ว่า ไอ้ที่เฮียแถมาว่า หากยึดกฎหมายมาตรา ๗ ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้วินิจฉัย แล้วปี ๓๒ ทำไมมหาเถรถึงได้เสนอชื่อสมเด็จพระญาณสังวรให้แก่นายกรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าขอพระราชทานโปรดเกล้าสถาปนาแต่งตั้งเป็นพระสังฆราชได้ แล้วทำไมเดี๋ยวนี้มหาเถรจะเสนอชื่อเหมือนเดิมบ้างไม่ได้ เราไม่รู้ว่าเฮียปัญญาอ่อนหรือลืมกันแน่ เฮียเคยเปิดพระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์ฉบับ ๒๕๐๕ อ่านบ้างไหม สมเด็จพระญาณสังวรทรงได้เป็นพระสังฆราชตามพระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์ฉบับปี ๒๕๐๕ ที่ยังไม่ได้แก้ไข
แต่ที่เฮียและพวกพยายามตะแบงและอ้างมาตรา ๗ มาใช้ มันเป็น พรบ.คณะสงฆ์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี ๒๕๓๕ นะเฮีย สมเด็จพระญาณสังวรทรงเป็นพระสังฆราชในปี ๓๒ ตั้งแต่ยังไม่มีการแก้ไข พรบ.คณะสงฆ์ แต่สมเด็จช่วงของเฮียอยากเป็นพระสังฆราชโดยอาศัย พรบ.คณะสงฆ์ปี ๒๕๐๕ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี ๒๕๓๕ แล้วนะเฮีย ซึ่งมาตรา ๗ ของฉบับนี้เขาก็เขียนเอาไว้ชัดว่า มาตรา ๗ “พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่ง
ในกรณีที่ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชว่างลง ให้นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนา เป็นสมเด็จพระสังฆราช
ในกรณีที่สมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะรูปอื่นผู้มีอาวุโสโดย สมณศักดิ์รองลงมาตามลำดับ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนาเป็น สมเด็จพระสังฆราช”
แล้วทีนี้เฮียลองมาดู พรบ. สงฆ์ปี ๒๕๐๕ ที่ยังไม่แก้ไข มาตรา ๗ พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช เฮียอ่านหนังสือกันออกหรือเปล่า มาตรา ๗ เขาเขียนเอาไว้ชัดว่า “พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช” ไม่ใช่ให้มหาเถรโดยความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี
ฉะนั้นไอ้ที่พวกเฮียพยายามตะแบงอ้างมติอัปยศอยู่เนี่ย มันผิดกฎหมายนะเฮีย และหากเฮียคิดว่ามันไม่ผิด
เดี๋ยวพุทธะอิสระจะไปแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เป็นตัวตั้งตัวตีให้เปิดประชุมลับอัปยศผิดกฎหมายดีไหมเฮีย
โถ... โถ... ช่างน่าสมเพชกับคนที่ไม่รู้จักพอพวกนี้จริงๆ ออกมาเลยเฮีย หลังจากประเมินสถานการณ์แล้ว
เมื่อเห็นว่าสมเด็จช่วงไม่ได้เป็นสังฆราชแน่ๆ เฮียก็ระดมพลพรรคคนรักธรรมกายและสมเด็จช่วงออกมากันให้เต็มพุทธมณฑลหรือสนามหลวงเลย รัฐบาล คสช. เขาจะได้มีข้ออ้างเพื่อจะอยู่ยาวได้ โอ... ไหมเฮีย
ไหนๆ ก็เคยช่วยเรามาครั้งหนึ่งแล้ว จะช่วยออกมาอีกซักครั้งคงไม่ลำบากหรอกกระมัง นายทุนธรรมกายมีเงินเป็นเข่งๆ อยู่แล้วนี่ แค่นี้ขนหน้าแข้งคงไม่ร่วงหรอก พุทธะอิสระ
วันนี้ ( 6 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ อดีตแกนนำกปปส. ได้แสดงความเห็นตอบโต้ จากกรณีที่พระเมธีธรรมาจารย์ ไม่พอใจผู้ตรวจการแผ่นดิน แจงขั้นตอนแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ต้องผ่านการเสนอชื่อจากนายกรัฐมนตรีก่อนส่งเรื่องให้มส.เห็นชอบ
พร้อมระบุว่า "เห็นพฤติกรรมของภิกษุผู้มักมากทะยานอยากจนเอ่อล้นออกมา เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของพระธรรมวินัยและสังคมได้รับรู้เวลานี้ ยิ่งเห็นยิ่งเวทนานัก มันจะอะไรกันนักหนาล่ะบรรดาอาเสี่ยอาเฮียทั้งหลาย เมื่อผู้ตรวจการเขาตรวจสอบและบอกว่ามติที่ มส. ออกมามันผิดกฎหมาย แล้วทำไมเฮียๆ จึงตะแบงอยากได้ตำแหน่งอะไรกันขนาดนั้น ถามพวกเฮียจริงๆ เถิด บวชกันเข้ามาเพื่ออะไรยางอายน่ะมีไหม ทำตัวอย่างกับพวกตายอดตายอยากมาจากขุมไหน เหมือนกับว่าถ้าสมเด็จช่วงไม่ได้ตำแหน่งสังฆราช พระธรรมวินัยจะอยู่ไม่ได้
อ้อ... แต่ลืมไป เราประเมินพวกเฮียสูงไป คนอย่างพวกเฮียไม่เคยเห็นพระธรรมวินัยอยู่ในสำนึกอยู่แล้ว เพราะถ้ามีสำนึก คงไม่หน้าด้านพากันออกมาเรียกร้องขอตำแหน่งกันอยู่อย่างนี้หรอก ยางอายน่ะเคยมีไหม ผ้าเหลืองที่สวมใส่อยู่น่ะไม่ได้ช่วยให้ปลงอะไรๆ กันได้บ้างเลยหรืออย่างไร
และขอบอกให้พวกเฮียได้เข้าใจชัดๆ ว่า ไอ้ที่เฮียแถมาว่า หากยึดกฎหมายมาตรา ๗ ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้วินิจฉัย แล้วปี ๓๒ ทำไมมหาเถรถึงได้เสนอชื่อสมเด็จพระญาณสังวรให้แก่นายกรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าขอพระราชทานโปรดเกล้าสถาปนาแต่งตั้งเป็นพระสังฆราชได้ แล้วทำไมเดี๋ยวนี้มหาเถรจะเสนอชื่อเหมือนเดิมบ้างไม่ได้ เราไม่รู้ว่าเฮียปัญญาอ่อนหรือลืมกันแน่ เฮียเคยเปิดพระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์ฉบับ ๒๕๐๕ อ่านบ้างไหม สมเด็จพระญาณสังวรทรงได้เป็นพระสังฆราชตามพระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์ฉบับปี ๒๕๐๕ ที่ยังไม่ได้แก้ไข
แต่ที่เฮียและพวกพยายามตะแบงและอ้างมาตรา ๗ มาใช้ มันเป็น พรบ.คณะสงฆ์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี ๒๕๓๕ นะเฮีย สมเด็จพระญาณสังวรทรงเป็นพระสังฆราชในปี ๓๒ ตั้งแต่ยังไม่มีการแก้ไข พรบ.คณะสงฆ์ แต่สมเด็จช่วงของเฮียอยากเป็นพระสังฆราชโดยอาศัย พรบ.คณะสงฆ์ปี ๒๕๐๕ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี ๒๕๓๕ แล้วนะเฮีย ซึ่งมาตรา ๗ ของฉบับนี้เขาก็เขียนเอาไว้ชัดว่า มาตรา ๗ “พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่ง
ในกรณีที่ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชว่างลง ให้นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนา เป็นสมเด็จพระสังฆราช
ในกรณีที่สมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะรูปอื่นผู้มีอาวุโสโดย สมณศักดิ์รองลงมาตามลำดับ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนาเป็น สมเด็จพระสังฆราช”
แล้วทีนี้เฮียลองมาดู พรบ. สงฆ์ปี ๒๕๐๕ ที่ยังไม่แก้ไข มาตรา ๗ พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช เฮียอ่านหนังสือกันออกหรือเปล่า มาตรา ๗ เขาเขียนเอาไว้ชัดว่า “พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช” ไม่ใช่ให้มหาเถรโดยความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี
ฉะนั้นไอ้ที่พวกเฮียพยายามตะแบงอ้างมติอัปยศอยู่เนี่ย มันผิดกฎหมายนะเฮีย และหากเฮียคิดว่ามันไม่ผิด
เดี๋ยวพุทธะอิสระจะไปแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เป็นตัวตั้งตัวตีให้เปิดประชุมลับอัปยศผิดกฎหมายดีไหมเฮีย
โถ... โถ... ช่างน่าสมเพชกับคนที่ไม่รู้จักพอพวกนี้จริงๆ ออกมาเลยเฮีย หลังจากประเมินสถานการณ์แล้ว
เมื่อเห็นว่าสมเด็จช่วงไม่ได้เป็นสังฆราชแน่ๆ เฮียก็ระดมพลพรรคคนรักธรรมกายและสมเด็จช่วงออกมากันให้เต็มพุทธมณฑลหรือสนามหลวงเลย รัฐบาล คสช. เขาจะได้มีข้ออ้างเพื่อจะอยู่ยาวได้ โอ... ไหมเฮีย
ไหนๆ ก็เคยช่วยเรามาครั้งหนึ่งแล้ว จะช่วยออกมาอีกซักครั้งคงไม่ลำบากหรอกกระมัง นายทุนธรรมกายมีเงินเป็นเข่งๆ อยู่แล้วนี่ แค่นี้ขนหน้าแข้งคงไม่ร่วงหรอก พุทธะอิสระ
ข่าวจาก: ทีนิวส์