คสช.'เมินคำขู่'ให้ปล่อยตัว ขังยาว'วัฒนา'ไม่มีกำหนด! | เดลินิวส์ „จากกรณี "นายวัฒนา เมืองสุข" แกนนำพรรคเพื่อไทย...
คสช.'เมินคำขู่'ให้ปล่อยตัว ขังยาว'วัฒนา'ไม่มีกำหนด! | เดลินิวส์
„จากกรณี "นายวัฒนา เมืองสุข" แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้เข้ารายงานตัวตามคำสั่งของ คสช.ที่ 3/2558 ที่มณฑลทหารบกที่ 11 แต่ภายหลังปรากฏว่า นายวัฒนา ได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ในความผิดฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 39/2557 ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.59 เป็นต้นไป ขณะที่ครอบครัวของนายวัฒนา ก็อ้างว่าจะเรียกร้องยื่นหนังสือกับทางสหภาพยุโรป และสถานฑูตสหรัฐเพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ดังที่ปรากฏมาแล้วนั้นความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 เม.ย. แหล่งข่าวจากคสช. ได้เปิดเผยกับ "เดลินิวส์ออนไลน์ว่า" ตั้งแต่คสช.ยึดอำนาจปี 57 ได้มีการเรียกนักการเมืองมารายงานตัว และให้แต่ละคนที่มารายงานตัวทำเงื่อนไข ตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 39/2557 ที่ว่า 1.ให้บุคคลที่มารายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติและได้รับการปล่อยตัว ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามแบบแนบท้ายคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัด และ 2.หากบุคคลใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในข้อ 1 จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับเมื่อผู้มารายงานตัวได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว เวลาจะไปไหนหรืออยู่ที่ใดจะต้องแจ้งให้ คสช.รับทราบ และจะต้องไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง และ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ กรณีของนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ยอมรับตามเงื่อนไขที่ คสช.ให้เซ็นต์รับทราบในวันที่มารายงานตัวครั้งแรก และในข้อที่ 3 ของเงื่อนไขยังบอกด้วยว่า หากนายวัฒนาฝ่าฝืนเงื่อนไขดังกล่าวหรือดำเนินการช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมทางการเมือง นายวัฒนายินยอมที่จะถูกดำเนินคดีทันทีและยินยอมถูกระงับธุรกรรมทางการเงินการที่อ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามกฎบัตรสหประชาชาตินั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชน หมายถึงการใช้อำนาจตามอำเภอใจ ที่ไม่มีกรอบกฎหมายให้อำนาจ แต่ที่ผ่านมาเจ้าพนักงานเขามีกรอบกฎหมายให้อำนาจ เขาก็ทำตามอำนาจ การที่นายวัฒนาอ้างสิทธิมนุษยชนนั้นหมายถึงว่า ทำอำนาจตามอำเภอใจที่ไม่มีกฎหมายให้อำนาจ แต่นี้เขาทำตามอำนาจที่กฎหมายให้มา ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันว่าให้ทำตามกฎหมายเท่านั้น เจ้าพนักงานไม่เคยใช้อำนาจตามอำเภอใจหลักกฎหมายมี 2 สำนัก ได้แก่ สำนักกฎหมายธรรมชาติ เช่น ไปตีหัวคน ก็รู้ว่าผิดกฎหมายโดยไม่ต้องมีใครมาบอก รู้ว่าต้องทำผิด เพราะอยู่ ๆ จะมาตีหัวได้อย่างไรแล้วบอกโดนรังแก เขาเรียกว่ากฎหมายธรรมชาติ แต่หลักกฎหมายธรรมชาติต่อไปคนก็ฆ่ากันเอง เมื่อตีหัวฉัน ๆ ก็ตีหัวกลับ ซึ่งมันไม่ได้ ต้องมีกฎหมายประวัติศาสตร์ คือ สำนักประวัติศาสตร์ สังคมต้องมาร่างกฎที่อยู่ร่วมกัน เพื่อปฏิบัติตามกฎนั้น ไม่ใช่มาอ้างกันมั่ว ๆ สิทธิมนุษยชนกฎบัตรสหประชาชาติมีตรงไหนบ้างว่า มีสิทธิแล้วไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ใช้สิทธิทำตามธรรมชาติแล้วไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายไม่มีสิทธิมนุษยชนตามกฎบัตรสหประชาชาติ ไม่มีตรงไหนที่บอกว่า ไม่อยู่ภายใต้กฎหมาย รัฐธรรมนูญบอกว่า สิทธิ เสรีภาพมี แต่ต้องอยู่ภายใต้ของกฎหมายห้ามละเมิด ถ้าอย่างนั้นคนติดคุกบอกว่า มีสิทธิเสรีภาพ ก็เดินออกจากคุกมาเลย โดยบอกว่าฉันมีเสรีภาพ โดยไม่เอากฎหมาย บ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้ หรือ อยากด่าคนอื่น แต่มีกฎหมายหมิ่นประมาท หรือ อยากด่าแล้วบอกมีสิทธิวิจารณ์ ก็ไม่ผิดข้อหาหมิ่นประมาท หรือ อยากพูดทุกคนใช้สิทธิกันหมด อย่างนี้ก็ไม่ต้องมีกฎหมายหมิ่นประมาท หรือ อยากเปิดเพลงเสียงดัง เพราะเปิดในบ้านฉัน คนอื่นเดือดร้อนไม่เป็นรัยอย่างนั้นประเทศชาติก็อยู่ไม่ได้ไม่มีใครว่า ไม่มีสิทธิ แต่สิทธิต้องใช้ตามกฎหมาย อยู่ภายใต้เงื่อนไขกฎหมาย อย่ามาใช้สิทธิในการเขียนอย่างละนิด อย่างละหน่อย เพื่อปลุกปั่นกระแสมวลชน หรือ ฐานเสียงของตัวเอง แล้วที่บอกว่า ไม่เคยยั่วยุ ปลุกปั่นนั้น ให้ไปย้อนกลับดูพฤติกรรมของนายวัฒนาว่าคืออะไร อย่ามาเอาครั้งเดียวแล้วมาพูด เป็นพฤติกรรมต่อเนื่อง คนเราทำไม่ใช่พฤติกรรมครั้งเดียว คนเราเจตนาทำสะสม ไม่ใช่ครั้งเดียวแล้วผิดสำเร็จ คนอื่นอ่านเจตนาคุณไม่ออกหรือ อย่าลืมว่าคนเราทำอะไรไว้ มันก็ต้องมีมูล ไม่อย่างนั้นทำไมคนอื่นพูดไม่โดนดำเนินคดี เพราะเจตนามันมี แต่เขาไม่อยากจะประจานไปมากกว่านี้ ขอให้สงบและทำให้บ้านเมืองสงบ ก็ไม่มีใครทำอะไรอยู่แล้ว เพราะเขาไม่ได้เป็นศัตรูกับคุณ การอ้างประชาชนต้องรักชาติ ให้ประชาชนอยู่เย็น เป็นสุข มีความสุข ไม่ใช่หาเรื่องให้คนออกมาเกลียดชังกัน มาตีกัน แบ่งข้างกัน ดังนั้นคสช.จำเป็นต้องควบคุมตัวนายวัฒนาโดยยังไม่กำหนดว่าจะควบคุมตัวกี่วัน ซึ่งนายวัฒนาได้เซ็นรับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" แหล่งข่าวจาก คสช. กล่าวทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนที่นายวัฒนา จะไปรายงานตัวที่มทบ.11 นายวัฒนาได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ให้ทหารปล่อยตัว ในเวลา 15.00 น. หากไม่ปล่อยตัวจะดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้อง.“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/politics/392457
„จากกรณี "นายวัฒนา เมืองสุข" แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้เข้ารายงานตัวตามคำสั่งของ คสช.ที่ 3/2558 ที่มณฑลทหารบกที่ 11 แต่ภายหลังปรากฏว่า นายวัฒนา ได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ในความผิดฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 39/2557 ตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.59 เป็นต้นไป ขณะที่ครอบครัวของนายวัฒนา ก็อ้างว่าจะเรียกร้องยื่นหนังสือกับทางสหภาพยุโรป และสถานฑูตสหรัฐเพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ดังที่ปรากฏมาแล้วนั้นความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 เม.ย. แหล่งข่าวจากคสช. ได้เปิดเผยกับ "เดลินิวส์ออนไลน์ว่า" ตั้งแต่คสช.ยึดอำนาจปี 57 ได้มีการเรียกนักการเมืองมารายงานตัว และให้แต่ละคนที่มารายงานตัวทำเงื่อนไข ตามประกาศ คสช.ฉบับที่ 39/2557 ที่ว่า 1.ให้บุคคลที่มารายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติและได้รับการปล่อยตัว ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามแบบแนบท้ายคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัด และ 2.หากบุคคลใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในข้อ 1 จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับเมื่อผู้มารายงานตัวได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว เวลาจะไปไหนหรืออยู่ที่ใดจะต้องแจ้งให้ คสช.รับทราบ และจะต้องไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง และ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ กรณีของนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ยอมรับตามเงื่อนไขที่ คสช.ให้เซ็นต์รับทราบในวันที่มารายงานตัวครั้งแรก และในข้อที่ 3 ของเงื่อนไขยังบอกด้วยว่า หากนายวัฒนาฝ่าฝืนเงื่อนไขดังกล่าวหรือดำเนินการช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมทางการเมือง นายวัฒนายินยอมที่จะถูกดำเนินคดีทันทีและยินยอมถูกระงับธุรกรรมทางการเงินการที่อ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามกฎบัตรสหประชาชาตินั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชน หมายถึงการใช้อำนาจตามอำเภอใจ ที่ไม่มีกรอบกฎหมายให้อำนาจ แต่ที่ผ่านมาเจ้าพนักงานเขามีกรอบกฎหมายให้อำนาจ เขาก็ทำตามอำนาจ การที่นายวัฒนาอ้างสิทธิมนุษยชนนั้นหมายถึงว่า ทำอำนาจตามอำเภอใจที่ไม่มีกฎหมายให้อำนาจ แต่นี้เขาทำตามอำนาจที่กฎหมายให้มา ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันว่าให้ทำตามกฎหมายเท่านั้น เจ้าพนักงานไม่เคยใช้อำนาจตามอำเภอใจหลักกฎหมายมี 2 สำนัก ได้แก่ สำนักกฎหมายธรรมชาติ เช่น ไปตีหัวคน ก็รู้ว่าผิดกฎหมายโดยไม่ต้องมีใครมาบอก รู้ว่าต้องทำผิด เพราะอยู่ ๆ จะมาตีหัวได้อย่างไรแล้วบอกโดนรังแก เขาเรียกว่ากฎหมายธรรมชาติ แต่หลักกฎหมายธรรมชาติต่อไปคนก็ฆ่ากันเอง เมื่อตีหัวฉัน ๆ ก็ตีหัวกลับ ซึ่งมันไม่ได้ ต้องมีกฎหมายประวัติศาสตร์ คือ สำนักประวัติศาสตร์ สังคมต้องมาร่างกฎที่อยู่ร่วมกัน เพื่อปฏิบัติตามกฎนั้น ไม่ใช่มาอ้างกันมั่ว ๆ สิทธิมนุษยชนกฎบัตรสหประชาชาติมีตรงไหนบ้างว่า มีสิทธิแล้วไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ใช้สิทธิทำตามธรรมชาติแล้วไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายไม่มีสิทธิมนุษยชนตามกฎบัตรสหประชาชาติ ไม่มีตรงไหนที่บอกว่า ไม่อยู่ภายใต้กฎหมาย รัฐธรรมนูญบอกว่า สิทธิ เสรีภาพมี แต่ต้องอยู่ภายใต้ของกฎหมายห้ามละเมิด ถ้าอย่างนั้นคนติดคุกบอกว่า มีสิทธิเสรีภาพ ก็เดินออกจากคุกมาเลย โดยบอกว่าฉันมีเสรีภาพ โดยไม่เอากฎหมาย บ้านเมืองก็อยู่ไม่ได้ หรือ อยากด่าคนอื่น แต่มีกฎหมายหมิ่นประมาท หรือ อยากด่าแล้วบอกมีสิทธิวิจารณ์ ก็ไม่ผิดข้อหาหมิ่นประมาท หรือ อยากพูดทุกคนใช้สิทธิกันหมด อย่างนี้ก็ไม่ต้องมีกฎหมายหมิ่นประมาท หรือ อยากเปิดเพลงเสียงดัง เพราะเปิดในบ้านฉัน คนอื่นเดือดร้อนไม่เป็นรัยอย่างนั้นประเทศชาติก็อยู่ไม่ได้ไม่มีใครว่า ไม่มีสิทธิ แต่สิทธิต้องใช้ตามกฎหมาย อยู่ภายใต้เงื่อนไขกฎหมาย อย่ามาใช้สิทธิในการเขียนอย่างละนิด อย่างละหน่อย เพื่อปลุกปั่นกระแสมวลชน หรือ ฐานเสียงของตัวเอง แล้วที่บอกว่า ไม่เคยยั่วยุ ปลุกปั่นนั้น ให้ไปย้อนกลับดูพฤติกรรมของนายวัฒนาว่าคืออะไร อย่ามาเอาครั้งเดียวแล้วมาพูด เป็นพฤติกรรมต่อเนื่อง คนเราทำไม่ใช่พฤติกรรมครั้งเดียว คนเราเจตนาทำสะสม ไม่ใช่ครั้งเดียวแล้วผิดสำเร็จ คนอื่นอ่านเจตนาคุณไม่ออกหรือ อย่าลืมว่าคนเราทำอะไรไว้ มันก็ต้องมีมูล ไม่อย่างนั้นทำไมคนอื่นพูดไม่โดนดำเนินคดี เพราะเจตนามันมี แต่เขาไม่อยากจะประจานไปมากกว่านี้ ขอให้สงบและทำให้บ้านเมืองสงบ ก็ไม่มีใครทำอะไรอยู่แล้ว เพราะเขาไม่ได้เป็นศัตรูกับคุณ การอ้างประชาชนต้องรักชาติ ให้ประชาชนอยู่เย็น เป็นสุข มีความสุข ไม่ใช่หาเรื่องให้คนออกมาเกลียดชังกัน มาตีกัน แบ่งข้างกัน ดังนั้นคสช.จำเป็นต้องควบคุมตัวนายวัฒนาโดยยังไม่กำหนดว่าจะควบคุมตัวกี่วัน ซึ่งนายวัฒนาได้เซ็นรับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" แหล่งข่าวจาก คสช. กล่าวทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนที่นายวัฒนา จะไปรายงานตัวที่มทบ.11 นายวัฒนาได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ให้ทหารปล่อยตัว ในเวลา 15.00 น. หากไม่ปล่อยตัวจะดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้อง.“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/politics/392457