นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองกลาง พิพากษาเพิกถอนคำสั่งของ มธ.ที่ลงโทษไล่ออกนายสมศั...
นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองกลาง พิพากษาเพิกถอนคำสั่งของ มธ.ที่ลงโทษไล่ออกนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ออกจากราชการ และเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ ของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) ที่ให้ยกอุทธรณ์ โดยให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่มีคำสั่งและคำวินิจฉัยว่า คำตัดสินดังกล่าวเป็นเพียงศาลชั้นต้น โดยตนได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายของ มธ.ดูรายละเอียด เพื่อพิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ แต่ส่วนตัวคิดว่าคงต้องอุทธรณ์ เพราะไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลที่ว่า ผู้บังคับบัญชาชั้นต้น คือ คณะศิลปศาสตร์ อนุมัติการขอลาราชการของนายสมศักดิ์ ถือเป็นกระบวนการสำคัญ แม้อธิการบดีจะยังไม่ได้อนุมัติ โดยเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจาก นายสมศักดิ์ยื่นเรื่องขอไปทำวิจัยภายในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2557-31 กรกฎาคม 2558 โดยคณะศิลปศาสตร์ได้อนุมัติการลาในเบื้องต้น และส่งเรื่องมาให้ตน ซึ่งเป็นอธิการบดี มธ. และถือเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด พิจารณาอนุมัติหลังวันที่ 1 สิงหาคม 2557 ซึ่งเมื่อตรวจสอบพบว่า นายสมศักดิ์เคยลาไปทำวิจัยลักษณะดังกล่าวแล้วเมื่อ 10 ปีก่อน แต่ไม่มีผลงานวิจัยกลับมาที่ มธ. ดังนั้น ตนจึงไม่อนุมัติการลา ซึ่งเวลานั้นนายสมศักดิ์ไม่อยู่แล้ว จึงไม่สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลถึงความจำเป็นในการทำวิจัยเรื่องดังกล่าว รวมถึงเอกสารการทำวิจัยอื่นๆ ได้
“เหตุผลสำคัญคือ ทำไมนายสมศักดิ์เดินทางไปทำวิจัยก่อนที่ผู้บังคับบัญชาสูงสุดจะอนุมัติ ไม่มีอาจารย์คนไหนทำ นายสมศักดิ์หายไปเป็นเวลาหลายเดือน โดยที่ไม่รอการอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา ถ้าผมซึ่งเป็นอธิการบดี ไม่ทำอะไรเลย ก็จะถูกต่อว่า แถมอาจโดนมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ผมไม่ได้จะกลั่นแกล้งใคร และไม่อยากเอาใครออกจากราชการ แต่ที่ทำไป เพราะอยากให้เป็นบรรทัดฐาน ไม่ใช่ใครอยากทำอะไรก็ได้” นายสมคิดกล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ มธ.มีคำสั่งลงโทษไล่ออกนายสมศักดิ์แล้ว ประมาณเดือนธันวาคม 2558 นายสมศักดิ์ได้มายื่นหนังสือลาออกจากราชการ ซึ่งหากนายสมศักดิ์ชนะคดีนี้ในทุกศาล ก็จะมีผลให้ได้รับบำเหน็จบำนาญ เพราะถือว่าเป็นการลาออกจากราชการเอง ไม่ใช่ถูกไล่ออก
“เหตุผลสำคัญคือ ทำไมนายสมศักดิ์เดินทางไปทำวิจัยก่อนที่ผู้บังคับบัญชาสูงสุดจะอนุมัติ ไม่มีอาจารย์คนไหนทำ นายสมศักดิ์หายไปเป็นเวลาหลายเดือน โดยที่ไม่รอการอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา ถ้าผมซึ่งเป็นอธิการบดี ไม่ทำอะไรเลย ก็จะถูกต่อว่า แถมอาจโดนมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ผมไม่ได้จะกลั่นแกล้งใคร และไม่อยากเอาใครออกจากราชการ แต่ที่ทำไป เพราะอยากให้เป็นบรรทัดฐาน ไม่ใช่ใครอยากทำอะไรก็ได้” นายสมคิดกล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ มธ.มีคำสั่งลงโทษไล่ออกนายสมศักดิ์แล้ว ประมาณเดือนธันวาคม 2558 นายสมศักดิ์ได้มายื่นหนังสือลาออกจากราชการ ซึ่งหากนายสมศักดิ์ชนะคดีนี้ในทุกศาล ก็จะมีผลให้ได้รับบำเหน็จบำนาญ เพราะถือว่าเป็นการลาออกจากราชการเอง ไม่ใช่ถูกไล่ออก
ขอขอบคุณข่าวจาก: matichon.co.th