"มีชัย" จวก กกต.อย่าทำเกินหน้าที่ แจงร่าง รธน.ย่อมไม่มีใครเห็นด้วยหมด ยันไม่เคยเขียนเอื้อ ปชป. โอดมีงัดวิชามารบิดเบือนซึ่งหน้า ...
"มีชัย" จวก กกต.อย่าทำเกินหน้าที่ แจงร่าง รธน.ย่อมไม่มีใครเห็นด้วยหมด ยันไม่เคยเขียนเอื้อ ปชป. โอดมีงัดวิชามารบิดเบือนซึ่งหน้า เรียกร้องทุกคนหันมารักประเทศให้มาก อนาถใจมีแต่พวกทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง-พวกพ้อง
เมื่อวันที่ 11 เม.ย.59 ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงหนังสือสรุปร่างสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับแจกจ่ายให้ประชาชน ที่จะส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ว่า วันนี้ก็ยังไม่มีการส่งให้ เพราะยังไม่แล้วเสร็จ ในที่ประชุมกรธ.วันนี้ก็คงจะมีการหารือรอบสุดท้ายอีก เพราะมี 2 เล่ม โดยเล่มแรกเป็นคำอธิบาย ส่วนเล่มที่สองจะมีภาพประกอบ เนื้อหาสาระไม่เยอะ โดยทั้ง 2 เล่ม จะมีขนาดA5 (A4 พับครึ่ง) คาดว่าประชาชนจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 20 นาที เพราะจะมีแต่จุดที่สำคัญ ส่วนรัฐธรรมนูญเล่มใหญ่ จะมีเนื้อหาละเอียดมากกว่า
เมื่อถามว่า ในช่วงที่ผ่านมามีเสียงไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองบางพรรค ตรงนี้มองอย่างไร นายมีชัย กล่าวว่า เวลาร่างก็ร่าง 1.ตามกรอบรัฐธรรมนูญชั่วคราว และ 2.ตามความเป็นอิสระที่เราคิดขึ้นและเราคิดออกมาได้แบบนี้และคิดว่าดี แต่ละจุดแต่ละประเด็นมีส่วนดี เรื่องถ้อยคำที่ไปแปลผิดๆ อาจจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือบางเรื่องอาจไม่ได้ดั่งใจ อยากจะได้อย่างโน้น ก็เป็นเรื่องลำบาก คนร่างก็ต้องร่างให้ใช้ได้ทั้งประเทศ
"ที่น่ากลัวคือตอนนี้วิชามารออกมาเยอะมากเริ่มบิดเบือนข้อมูลเมื่อเช้ามีคนส่งมาให้ดูเอากดดันซึ่งๆ หน้าเลยกำลังดูว่าจะทำอย่างไรดี และหากมีกฎหมายออกมาดูแลก็คงช่วยได้" นายมีชัย กล่าว
เมื่อถามว่า เริ่มมีการใช้วิชามารแล้วนั้น มาในรูปแบบไหนอย่างไร นายมีชัย กล่าวว่า การสรุปที่ผิด เช่น บทบัญญัติว่าด้วยเรื่องการทำสนธิสัญญา มีการเอาข้อความอีกมาตรามาใส่และแปล เช่น ถ้าต่างชาติมาทำสัญญา ทำนิติกรรมกับไทย และถ่วงเวลาไว้ 90 วัน ไทยจะต้องเป็นไปตามสัญญานั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด เพราะเวลาต่างชาติ จะมาทำสัญญากับไทยต้องทำกับรัฐบาล และหากรัฐบาลจะทำก็ต้องมาขอสภาฯ ซึ่งในรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้เขียนไว้ว่าต้องทำให้เสร็จภายใน 90 วัน ไม่ได้แปลว่าใครถ่วงและต่างชาติคงมาถ่วงในสภาฯไม่ได้ ตรงนี้แสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่า เป็นการบิดเบือน
ส่วนจะแก้ไขอย่างไรได้นั้น นายมีชัย กล่าวว่า ก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่ต้องทำหน้าที่ เราพบเราก็ต้องแจ้ง กกต.จัดการหรือแม้กระทั่งในเรื่องที่กล่าวหาว่า กรธ.เขียนเรื่องทุจริต เพื่อช่วยพรรคประชาธิปัตย์ อย่างที่ผ่านมามีการใช้คำว่าไล่ออก ปลดออกให้แล้ว กรธ.ไม่ใช้คำนั้น ก็กล่าวหาว่า ต้องการช่วยพรรคประชาธิปัตย์ ตรงนี้ก็บิดเบือน ซึ่งกรธ.เขียนไว้ว่า ผู้ใดก็ตามที่ถูกให้พ้นจากราชการ หรือหน่วยงานของรัฐเพราะทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งคำว่าให้พ้นจากราชการ หรือหน่วยงานของรัฐเพราะทุจริตต่อหน้าที่ กว้างกว่าปลดออก ไล่ออกหรือให้ออก เพราะบางทีอาจจะต้องถึงกับเลิกสัญญาไปเลย และถ้าเขียนแบบเก่าจะครอบคลุมไม่ถึง เขียนใหม่จะครอบคลุมมากกว่า
"ผมว่าบ้านเมืองเป็นของทุกคนนะครับ ประเทศก็เป็นของทุกคน นึกถึงประเทศบ้างเถอะครับ อย่านึกถึงแต่ส่วนตัว หรือ นายจ้างที่เขาจ้างมาเลย ต้องนึกถึงประเทศบ้าง การบิดเบือนไม่ทำให้ กรธ.ท้อ เพราะเมื่อเรามีหน้าที่ชี้แจงได้ เราก็ต้องชี้แจงไป อนาถใจที่ว่า ทำไมเขาไม่นึกถึงบ้านเมืองบ้างทำกันซึ่งๆ หน้าทำได้อย่างไร" นายมีชัย กล่าว
เมื่อถามว่า เวลานี้ 2 พรรคการเมืองใหญ่ ดูเหมือนจะไม่รับ ร่าง รธน. นายมีชัย กล่าวว่า เท่าที่ทราบพรรคประชาธิปัตย์ เขายังไม่บอกว่าไม่รับ เมื่อถามย้ำว่า แต่เขาบอกว่ามีจุดบกพร่องในหลายจุด นายมีชัย กล่าวว่า คงไม่ใช่เรื่องบกพร่อง อาจจะใช้คำผิดก็ได้เพราะ เขาบอกแต่พียงว่าไม่เห็นด้วยและเป็นเรื่องปกติ ที่ไม่มีใครเห็นด้วยกับใครร้อยเปอร์เซ็นต์
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่อาจจะถูกพรรคการเมืองเอาไปขยายความแบบผิดๆ นายมีชัย กล่าวว่า ถ้าเป็นพรรคการเมืองที่มีคุณธรรม คงไม่ไปทำอะไรที่บิดเบือน เขาไม่เห็นด้วยก็เป็นไร เขาก็บอกว่าไม่เห็นด้วย ก็รับรู้ แต่พรรคที่ไม่ทีคุณธรรมก็จะไปบิดเบือน และดูเหมือนว่าจะเริ่มทยอยบิดเบือนกันแล้ว
เมื่อถามว่า หากประชามติผ่าน คำถามพ่วงผ่านแล้วต่อมาเราต้องไปแก้ไขรัฐธรรมนูญจะถือว่าผิดหลักการหรือไม่ นายมีชัยกล่าวว่า ไม่ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นเราต้องเคารพเจตนารมณ์ของประชาชน ส่วนคำถามพ่วง ที่อาจสร้างความขัดแย้งได้นั้น ก็คงไม่เกี่ยวกับ กรธ. เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรธ.แล้ว กรธ.ทำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
ส่วนเรื่องที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เชิญหลายหน่วยงานเข้าหารือเรื่องการเตรียมความพร้อมการทำประชามติ นายมีชัย กล่าวว่า ทางกรธ. ได้ส่งนายประพันธ์ นัยโกวิท เข้าร่วมหารือด้วย เพราะเขามีหนังสือมาบอกว่า กรธ.จะพิมพ์ข้อดี ข้อไม่ดี ของรธน.ไปแจกชาวบ้าน ซึ่งเราเห็นว่านั่นคือการทำเกินหน้าที่ของ กกต.และเป็นการไม่เป็นกลาง
"คุณรู้ได้อย่างไร ว่า ของที่บอกว่ามันดี กับไม่ดี เอาใครมาเป็นมาตรฐาน เพราะฉะนั้นเป็นการทำนอกหน้าที่ และเขามาขอให้เราเขียนอะไรเพิ่ม อีก 4 หน้า ซึ่งเราคิดว่าถ้าเขามีแบบนั้น เราจะไม่เขียน เพราะเราไม่อยากเป็นจำเลยเพิ่ม เขาคิดอะไรมากเรื่องเกินไปหรือเปล่า กกต.ต้องเป็นกลาง ไปถือหางอะไรไม่ได้" นายมีชัย กล่าว
เมื่อถามว่า ข้อดีข้อเสียของรัฐธรรมนูญประชาชนควรตัดสินเอง นายมีชัย กล่าวว่า ประชาชนควรตัดสินจากการศึกษาเอง ไม่ควรมีใครไปชี้นำ เพราะถ้า กกต.เป็นคนไปพูดก็เท่ากับเป็นการยืนยันว่า นั่นคือข้อดี ข้อเสีย เราคิดว่านั่นคือการทำนอกหน้าที่ และพอดีพอร้ายจะเป็นการกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญาด้วย
thairath.co.th
เมื่อวันที่ 11 เม.ย.59 ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงหนังสือสรุปร่างสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับแจกจ่ายให้ประชาชน ที่จะส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ว่า วันนี้ก็ยังไม่มีการส่งให้ เพราะยังไม่แล้วเสร็จ ในที่ประชุมกรธ.วันนี้ก็คงจะมีการหารือรอบสุดท้ายอีก เพราะมี 2 เล่ม โดยเล่มแรกเป็นคำอธิบาย ส่วนเล่มที่สองจะมีภาพประกอบ เนื้อหาสาระไม่เยอะ โดยทั้ง 2 เล่ม จะมีขนาดA5 (A4 พับครึ่ง) คาดว่าประชาชนจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 20 นาที เพราะจะมีแต่จุดที่สำคัญ ส่วนรัฐธรรมนูญเล่มใหญ่ จะมีเนื้อหาละเอียดมากกว่า
เมื่อถามว่า ในช่วงที่ผ่านมามีเสียงไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองบางพรรค ตรงนี้มองอย่างไร นายมีชัย กล่าวว่า เวลาร่างก็ร่าง 1.ตามกรอบรัฐธรรมนูญชั่วคราว และ 2.ตามความเป็นอิสระที่เราคิดขึ้นและเราคิดออกมาได้แบบนี้และคิดว่าดี แต่ละจุดแต่ละประเด็นมีส่วนดี เรื่องถ้อยคำที่ไปแปลผิดๆ อาจจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือบางเรื่องอาจไม่ได้ดั่งใจ อยากจะได้อย่างโน้น ก็เป็นเรื่องลำบาก คนร่างก็ต้องร่างให้ใช้ได้ทั้งประเทศ
"ที่น่ากลัวคือตอนนี้วิชามารออกมาเยอะมากเริ่มบิดเบือนข้อมูลเมื่อเช้ามีคนส่งมาให้ดูเอากดดันซึ่งๆ หน้าเลยกำลังดูว่าจะทำอย่างไรดี และหากมีกฎหมายออกมาดูแลก็คงช่วยได้" นายมีชัย กล่าว
เมื่อถามว่า เริ่มมีการใช้วิชามารแล้วนั้น มาในรูปแบบไหนอย่างไร นายมีชัย กล่าวว่า การสรุปที่ผิด เช่น บทบัญญัติว่าด้วยเรื่องการทำสนธิสัญญา มีการเอาข้อความอีกมาตรามาใส่และแปล เช่น ถ้าต่างชาติมาทำสัญญา ทำนิติกรรมกับไทย และถ่วงเวลาไว้ 90 วัน ไทยจะต้องเป็นไปตามสัญญานั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด เพราะเวลาต่างชาติ จะมาทำสัญญากับไทยต้องทำกับรัฐบาล และหากรัฐบาลจะทำก็ต้องมาขอสภาฯ ซึ่งในรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้เขียนไว้ว่าต้องทำให้เสร็จภายใน 90 วัน ไม่ได้แปลว่าใครถ่วงและต่างชาติคงมาถ่วงในสภาฯไม่ได้ ตรงนี้แสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่า เป็นการบิดเบือน
ส่วนจะแก้ไขอย่างไรได้นั้น นายมีชัย กล่าวว่า ก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่ต้องทำหน้าที่ เราพบเราก็ต้องแจ้ง กกต.จัดการหรือแม้กระทั่งในเรื่องที่กล่าวหาว่า กรธ.เขียนเรื่องทุจริต เพื่อช่วยพรรคประชาธิปัตย์ อย่างที่ผ่านมามีการใช้คำว่าไล่ออก ปลดออกให้แล้ว กรธ.ไม่ใช้คำนั้น ก็กล่าวหาว่า ต้องการช่วยพรรคประชาธิปัตย์ ตรงนี้ก็บิดเบือน ซึ่งกรธ.เขียนไว้ว่า ผู้ใดก็ตามที่ถูกให้พ้นจากราชการ หรือหน่วยงานของรัฐเพราะทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งคำว่าให้พ้นจากราชการ หรือหน่วยงานของรัฐเพราะทุจริตต่อหน้าที่ กว้างกว่าปลดออก ไล่ออกหรือให้ออก เพราะบางทีอาจจะต้องถึงกับเลิกสัญญาไปเลย และถ้าเขียนแบบเก่าจะครอบคลุมไม่ถึง เขียนใหม่จะครอบคลุมมากกว่า
"ผมว่าบ้านเมืองเป็นของทุกคนนะครับ ประเทศก็เป็นของทุกคน นึกถึงประเทศบ้างเถอะครับ อย่านึกถึงแต่ส่วนตัว หรือ นายจ้างที่เขาจ้างมาเลย ต้องนึกถึงประเทศบ้าง การบิดเบือนไม่ทำให้ กรธ.ท้อ เพราะเมื่อเรามีหน้าที่ชี้แจงได้ เราก็ต้องชี้แจงไป อนาถใจที่ว่า ทำไมเขาไม่นึกถึงบ้านเมืองบ้างทำกันซึ่งๆ หน้าทำได้อย่างไร" นายมีชัย กล่าว
เมื่อถามว่า เวลานี้ 2 พรรคการเมืองใหญ่ ดูเหมือนจะไม่รับ ร่าง รธน. นายมีชัย กล่าวว่า เท่าที่ทราบพรรคประชาธิปัตย์ เขายังไม่บอกว่าไม่รับ เมื่อถามย้ำว่า แต่เขาบอกว่ามีจุดบกพร่องในหลายจุด นายมีชัย กล่าวว่า คงไม่ใช่เรื่องบกพร่อง อาจจะใช้คำผิดก็ได้เพราะ เขาบอกแต่พียงว่าไม่เห็นด้วยและเป็นเรื่องปกติ ที่ไม่มีใครเห็นด้วยกับใครร้อยเปอร์เซ็นต์
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่อาจจะถูกพรรคการเมืองเอาไปขยายความแบบผิดๆ นายมีชัย กล่าวว่า ถ้าเป็นพรรคการเมืองที่มีคุณธรรม คงไม่ไปทำอะไรที่บิดเบือน เขาไม่เห็นด้วยก็เป็นไร เขาก็บอกว่าไม่เห็นด้วย ก็รับรู้ แต่พรรคที่ไม่ทีคุณธรรมก็จะไปบิดเบือน และดูเหมือนว่าจะเริ่มทยอยบิดเบือนกันแล้ว
เมื่อถามว่า หากประชามติผ่าน คำถามพ่วงผ่านแล้วต่อมาเราต้องไปแก้ไขรัฐธรรมนูญจะถือว่าผิดหลักการหรือไม่ นายมีชัยกล่าวว่า ไม่ เพราะเมื่อถึงเวลานั้นเราต้องเคารพเจตนารมณ์ของประชาชน ส่วนคำถามพ่วง ที่อาจสร้างความขัดแย้งได้นั้น ก็คงไม่เกี่ยวกับ กรธ. เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรธ.แล้ว กรธ.ทำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
ส่วนเรื่องที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เชิญหลายหน่วยงานเข้าหารือเรื่องการเตรียมความพร้อมการทำประชามติ นายมีชัย กล่าวว่า ทางกรธ. ได้ส่งนายประพันธ์ นัยโกวิท เข้าร่วมหารือด้วย เพราะเขามีหนังสือมาบอกว่า กรธ.จะพิมพ์ข้อดี ข้อไม่ดี ของรธน.ไปแจกชาวบ้าน ซึ่งเราเห็นว่านั่นคือการทำเกินหน้าที่ของ กกต.และเป็นการไม่เป็นกลาง
"คุณรู้ได้อย่างไร ว่า ของที่บอกว่ามันดี กับไม่ดี เอาใครมาเป็นมาตรฐาน เพราะฉะนั้นเป็นการทำนอกหน้าที่ และเขามาขอให้เราเขียนอะไรเพิ่ม อีก 4 หน้า ซึ่งเราคิดว่าถ้าเขามีแบบนั้น เราจะไม่เขียน เพราะเราไม่อยากเป็นจำเลยเพิ่ม เขาคิดอะไรมากเรื่องเกินไปหรือเปล่า กกต.ต้องเป็นกลาง ไปถือหางอะไรไม่ได้" นายมีชัย กล่าว
เมื่อถามว่า ข้อดีข้อเสียของรัฐธรรมนูญประชาชนควรตัดสินเอง นายมีชัย กล่าวว่า ประชาชนควรตัดสินจากการศึกษาเอง ไม่ควรมีใครไปชี้นำ เพราะถ้า กกต.เป็นคนไปพูดก็เท่ากับเป็นการยืนยันว่า นั่นคือข้อดี ข้อเสีย เราคิดว่านั่นคือการทำนอกหน้าที่ และพอดีพอร้ายจะเป็นการกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญาด้วย
thairath.co.th