ทหารสุดทน เลือดขึ้นหน้า อัด "เสี่ยไก่-วัฒนา" บิดเบือน ดิสเครดิต คสช.-ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่รักษาคำพูด บอกนัดให้มา...
ทหารสุดทน เลือดขึ้นหน้า อัด "เสี่ยไก่-วัฒนา" บิดเบือน ดิสเครดิต คสช.-ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่รักษาคำพูด บอกนัดให้มาพบหน้าบ้านเอง 14 เม.ย. แต่กลับเบี้ยว เจ้าตัวโวยกองกำลังปักหลักจนลูกเมียเข้าบ้านไม่ได้ จี้ให้กลับไปได้แล้ว 18 เม.ย.เจอกันแน่
ความเคลื่อนไหวกรณีทหารเตรียมนำตัวนายวัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำ พรรคเพื่อไทย ไปเข้าค่ายทหารเพื่อปรับทัศนคติ หลังนายวัฒนาออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเรื่องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ล่าสุด นายวัฒนายังคงเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยใช้เรื่องว่า "ขอความเป็นธรรมให้ผมด้วย"
มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า หลังจากที่ผมได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า การแสดงความเห็นของผมที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญไม่เป็นความผิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 แต่วานนี้ (14 เมษายน) ทหารก็ยังยกกำลังมาที่บ้านเพื่อจะควบคุมตัวผมไปปรับทัศนคติ โดยทีมโฆษก คสช.เปิดเผยสาเหตุการเชิญตัวว่าผมให้ความเห็นในเชิงไม่สร้างสรรค์ ผิดข้อตกลงที่ให้ไว้ และมีเจตนาท้าทายอำนาจของ คสช. ขณะนี้กองกำลังยังปักหลักปิดหน้าบ้านจนลูกเมียผมเข้าบ้านไม่ได้ ต้องย้ายไปหาที่นอนใหม่ ยกกำลังกลับไปเถิดครับ วันจันทร์ที่ 18 เมษายน เวลา 11.00 น. ผมเสร็จธุระแล้วจะมาพบท่านแน่นอน อย่าใช้วิธีสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ไม่ใช่วิธีของชายชาติทหารครับ
นายวัฒนาย้ำว่า เมื่อคราวที่ คสช.ยึดอำนาจการปกครอง ผมและนักการเมืองอื่นประมาณ 200 คน ถูกเรียกไปรายงานตัว และถูกนำตัวควบคุมตัวเป็นเวลา 3-7 วัน ก่อนที่จะปล่อยตัวเจ้าหน้าที่ได้เอาเอกสารมาให้ผมลงนามมีเงื่อนไขว่า (1) จะไม่เดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุมัติจากหัวหน้า คสช. (2) จะละเว้นการเคลื่อนไหวหรือประชุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ และ (3) หากฝ่าฝืนหรือดำเนินการช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมทางการเมืองยินยอมถูกดำเนิน คดีและระงับธุรกรรมทางการเงิน
"ดังนั้น การแสดงความเห็นของผมที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเหมือนกับที่หัวหน้าพรรคการเมืองและผู้บริหารของทั้งสองพรรค จึงไม่ได้เป็นการทำผิดข้อตกลงที่ให้ไว้ อีกทั้งการผิดข้อตกลงก็ไม่ได้ให้อำนาจ คสช. นำกำลังมาควบคุมตัวผมไปไหนทั้งสิ้นนะครับ ท่านมีอำนาจที่จะดำเนินคดีหรือระงับธุรกรรมทางการเงินตามข้อตกลงเท่านั้น ทั้งนี้ เป็นตามข้อตกลงที่ผมโพสต์มาให้ดูเป็นหลักฐานด้วยแล้ว ขอความกรุณาอย่าบิดเบือนเพื่อใช้อำนาจตามอำเภอใจเลยครับ" นายวัฒนาย้ำ
อดีต ส.ส.เพื่อไทยยังโพสต์ด้วยว่า เป็นเพียงนักการเมืองเล็กๆ คนหนึ่งที่ต้องการเห็นบ้านเมืองมีความเจริญก้าวหน้า ผมเชื่อว่าการเปิดเสรีภาพทางความคิดจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ ส่วนหลักนิติธรรมและประชาธิปไตยที่แท้จริงจะทำให้คนไทยทุกสีทุกกลุ่มสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติแม้จะคิดเห็นไม่ตรงกันก็ตาม ผมต่อสู้เพื่อหลักการที่ถูกต้องไม่ได้ ทำเพื่อสีหรือกลุ่มการเมืองใด การแสดงความคิดเห็นของผมเป็นไปโดยสุจริตเพื่อส่วนรวม ผมไม่เคยโกรธกับการที่ท่านยกกำลังมาควบคุมตัวผม และได้อโหสิกรรมให้แล้วทุกครั้ง เพราะเชื่อแม้เราจะมีความคิดที่ต่างกัน แต่มีเป้าหมายตรงกันคือเพื่อประเทศชาติ แต่การที่ท่านยกกำลังมาควบคุมตัวผม ทำให้ครอบครัวผมเดือดร้อน ลูกผมต้องออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยผม การนำตัวผมไปปรับทัศนคติไม่ได้ทำให้ผมเปลี่ยนความคิด ผมไม่เคยคิดท้าทายอำนาจของ คสช. ทั้งไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือข้อตกลงใดๆ เพียงแต่อาจคิดเห็นไม่เหมือนท่าน ผมพร้อมที่เป็นเพียงเม็ดกรวดเล็กๆ ในสะพานที่จะนำคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงขอความเป็นธรรมช่วยกรุณาทบทวนคำสั่ง มาร่วมมือกันทำประเทศไทยให้น่าอยู่สำหรับคนไทยทุกสีทุกกลุ่มดีกว่ามั้ยครับ
พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานรักษาความสงบ สำนักงานเลขาธิการ คสช. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ตามข้อเท็จจริงนายวัฒนาเป็นผู้นัดกับเราก่อน โดยให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้รอ แต่ว่านายวัฒนากลับโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวบืดเบือนข้อเท็จจริงในลักษณะที่ทหารไปปิดหน้าบ้านอะไรทำนองนี้ ซึ่งข้อเท็จจริงประชาชนคนไทยสามารถรับรู้ได้ถึงการปฏิบัติตัวของนายวัฒนาว่าเป็นเช่นใด เพราะนายวัฒนาเองก็เคยมาพบเจ้าหน้าที่แล้วไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง พร้อมทั้งลงนามข้อตกลง ทำความเข้าใจเป็นสัญญาแบบลูกผู้ชาย แต่ความเป็นจริงนายวัฒนาก็มีพฤติกรรมแบบนี้ตลอด จึงทำให้ประชาชนรู้ได้ว่านายวัฒนาที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ไม่เคยเป็นสุภาพบุรุษเลย มิหนำซ้ำยังเป็นคนไม่รักษาคำพูด อีกทั้งชอบไปแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่บิดเบือนข้อเท็จจริงตลอด
“นายวัฒนาเป็นผู้นัดเอง และให้ทหารมารอวันที่ 14 เมษายน แต่กลับขอเลื่อนไปแบบไม่มีกำหนด แถมยังปิดโทรศัพท์ ทำให้เจ้าหน้าที่ติดต่อไม่ได้ ซึ่งทางเราก็มีความห่วงใยว่าอาจจะมีคนที่คิดไม่ดีกับนายวัฒนามากน้อยแค่ไหน เพราะฉะนั้นอยากชี้ให้ประชาชนได้เห็นว่าการปฏิบัติตัวของนายวัฒนามีลักษณะที่บิดพลิ้ว บิดเบือนไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชายเสียเลย ขณะเดียวกันเราอยากให้บรรยากาศของความอบอุ่นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะไม่อยากไปทำลายบรรยากาศแห่งความสุขของพี่น้องคนไทย และย้ำว่า คสช.มีความเป็นสุภาพบุรุษ และความเป็นทหารพอที่ให้โอกาส ให้เวลา และรอคอยนายวัฒนาจนถึงวันที่ 18 เมษายน” พ.อ.ปิยพงศ์กล่าว
เมื่อถามว่า พฤติกรรมของนายวัฒนามีคุณสมบัติพอที่จะเข้าอบรมหลักสูตรผู้นำสร้างชาติอย่างสร้างสรรค์หรือไม่ พ.อ.ปิยพงศ์กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะฝ่ายกฎหมาย คสช.กำลังพิจารณาอยู่ว่า ณ เวลานี้สถานะของนายวัฒนาอยู่ในสถานะใด น่าจะเข้าข่ายขัดคำสั่ง คสช.หรือไม่ และผิดสัญญาที่ตกลงกันไว้ ทั้งนี้คงต้องรอก่อน