พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาส่วนหนึ่งในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อวานนี้ (12 ก.พ.) กล่าวถึงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟขน...
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พร้อมจะตรวจสอบรายละเอียดเรื่องของราคาค่าก่อสร้างโครงการ กับกระทรวงคมนาคม และยืนยันว่าการดำเนินโครงการนี้ร่วมกับประเทศคู่สัญญาจะเป็นไปอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่หรือเล็ก
นายกรัฐมนตรีให้ข้อมูลด้วยว่าเส้นทางรถไฟซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือไทย-จีน ในช่วงกรุงเทพฯ – แก่งคอย จะใช้ขนผู้โดยสารอย่างเดียว ซึ่งถือว่ามีความจำเป็น ส่วนช่วงหนองคาย – นครราชสีมา นครราชสีมา – แก่งคอย และแก่งคอย –มาบตาพุด บริเวณท่าเรือ/นิคมอุตสาหกรรม จะใช้ทั้งขนคนและสินค้า
“เราไม่เริ่มวันนี้จะไปตรงไหนล่ะ ถ้าเริ่มวันนี้เราไม่มีเงิน ก็เริ่มทำเฉพาะรางไปก่อน แล้วเอารถความเร็วปานกลางมาขึ้น อย่างน้อยก็เร็วกว่าความเร็วเดิม”
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงโครงการความร่วมมือรถไฟ ไทย – ญี่ปุ่น “ชินคันเซ็น” ระยะทางรวม 672 กิโลเมตร เส้นทาง กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ เพื่อใช้ขนส่งผู้โดยสาร ว่าขณะนี้ยังอยู่ในขั้นศึกษาความเป็นไปได้ โดยจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ยังมีแนวคิดในการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทาง คือ ช่วงกรุงเทพฯ – หัวหิน 211 กิโลเมตร และ กรุงเทพฯ – พัทยา – ระยอง 193 กิโลเมตร ซึ่งจะเน้นการการขนส่งผู้โดยสารเช่นกัน
ทั้งสองโครงการเน้นที่จะขนส่งนักท่องเที่ยวหรือคนทำงานให้เดินทางไป-กลับในวันเดียวกันได้
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงโครงการพัฒนาระบบรถไฟรางคู่ ขนาด 1 เมตร เสริมจากเส้นทางเดี่ยวที่มีอยู่เดิม 4,000 กว่ากิโลเมตร ว่า ในระยะแรก จะดำเนินการเป็นระยะทาง 905 กิโลเมตร ในเส้นทางที่สำคัญในเชิงเศรษฐกิจ โดยมี 2 เส้นทาง ที่เริ่มก่อสร้างไปแล้ว ได้แก่ ช่วงฉะเชิงเทรา – คลอง 19 – แก่งคอย ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2561 กับช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น แล้วเสร็จปี 2562 กับอีก 4 เส้นทาง ที่อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณารายงาน ผลกระทบด้านสิงแวดล้อม ช่วงประจวบคิรีขันธ์ – ชุมพร มาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ ช่วงนครปฐม – หัวหิน ลพบุรี – ปากน้ำโพ จากนั้นจะนำเสนอ ครม. และเมื่อผ่านการทำประชาพิจารณ์แล้วจะนำเสนอให้ ครม. พิจารณาอนุมัติต่อไป #Highspeedtrain
ภาพและข่าวจาก: บีบ๊ซี ไทย