26 ก.พ. 59 ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลแพ่งอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นโจทก์ ยื่นฟ้...
จากกรณีที่จำเลยทั้งหมด ซึ่งได้รับเลือกเป็น ส.ส. ปี 2544 โดย กกต.ได้รับการร้องเรียนว่า จำเลยทั้งหมดดำเนินการเลือกตั้งโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม เป็นการฝ่าฝืน มาตรา 44 และ 45 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2541 กกต.จึงจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ มีผลทำให้จำเลยทั้ง 22 คนสิ้นสภาพการเป็น ส.ส.นับแต่วันที่ กกต.มีคำสั่งให้จัดการเลือกตั้งใหม่ ขณะดำรงตำแหน่ง ส.ส.จำเลยทั้ง 22 คน รวมทั้งเงินประจำตำแหน่งและค่าตอบแทนอย่างอื่น ไปจากโจทก์ จำเลยจึงต้องคืนเงินทั้งหมดให้โจทก์
คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาให้จำเลยทั้ง 22 คนคืนเงินแก่โจทก์ ประมาณ 25,865,318 บาทเศษ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์ ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยยื่นฎีกา ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญฯ ปี 2540 มาตรา 97 บัญญัติว่า "การออกจากตำแหน่งของ ส.ส. หรือ ส.ว.ภายหลังสมาชิกภาพสิ้นสุดลง หรือในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกคนใดคนหนึ่งสิ้นสุดลงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว.ให้คืนเงินประจำตำแหน่งและผลตอบแทนอย่างอื่น ที่ผู้นั้นได้รับมาเนื่องจากการดำรงตำแหน่งดังกล่าว"
ดังนั้นพวกจำเลย จึงต้องคืนเงินประจำตำแหน่งและผลตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมา รวมทั้งค่าเบี้ยประชุม ค่าพาหนะเดินทางมาทำหน้าที่ ส.ส. , เงินที่จ่ายให้ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว และผู้ช่วยดำเนินงานของ ส.ส.ทั้งหมด คืนให้แก่โจทก์ด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น จึงพิพากษายืนให้จำเลยทั้ง 22 คน คืนเงินแก่โจทก์ จำนวน 25,865 ,318 บาทเศษ พร้อมเอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีจนกว่าจะชำระเสร็จ
ข่าวจาก: แนวหน้า