ยิ่งขุดยิ่งเน่า สุทิน วรรณบวร ผู้สื่อข่าวอาวุโสชื่อดัง เขียนคอลัมน์แฉ แผนการณ์ใช้โลกล้อมประเทศของทักษิณ เริ่มหมดท่า ล่าสุดสร้างภาพว่า สถา...
ซึ่งข้อเขียนดังกล่าว สุทิน วรรณบวร ได้เขียนไว้ใน คอลัมน์“วิภาคสื่อเทศ วิเทศสื่อไทย”ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 3 มีนาคม 2559 กองบรรณาธิการจึงขอนำมาเสนอทั้งหมดโดยมิได้ตัดทอนแก้ไขแต่ประการใดดังนี้
ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทประชาสัมพันธ์และล็อบบี้ยิสต์ที่รับจ้างทำงานให้กับระบอบทักษิณ ทำผลงานเข้าตานายจ้าง ที่สามารถจัดให้สื่อฝรั่งผีโม่แป้งได้สัมภาษณ์นช.ทักษิณ ชินวัตร และจัดการให้เจ้าหน้าที่จากยูเอ็นได้มาพบกับสมุนบริวารนช.ทักษิณ ตามแผนการสร้างภาพลักษณ์ทางสากล
บริษัทประชาสัมพันธ์/ล็อบบี้ยิสต์ จัดให้นายจ้างที่เป็นนักโทษหนีคุก ใช้สื่อฝรั่งผีโม่แป้งเป็นแม่สื่อในการขอเจรจากับ คสช.เพื่อหวังช่วยคนในครอบครัวที่กำลังถูกดำเนินคดี และมีทีท่าว่าจะต้องเข้าปิ้งในไม่ช้า เมื่อข้อเสนอถูกปฏิเสธเพราะ คสช.ไม่ให้ราคานักโทษคนหนีคุก ลูกจ้างที่มีหน้าที่ปลอบใจและหลอกใช้เงินนายจ้างก็จัดฉากใหม่ คราวนี้ได้ไปโชว์ตัวในสหรัฐที่สถาบันกำมะลอชื่อว่า “Word Policy Institute =WPI” แปลเป็นไทยน่าใช้คำว่า สถาบันนโยบายโลก
สถาบันนโยบายโลก ฟังดูน่าจะเป็นหน่วยงานวิจัยระดับสากล แต่นักวิชาการอเมริกันให้เรียก WPI ว่าเป็น Second Rate think tank หรือคลังสมองชั้นต่ำ
Phil Cunningham
Phil Cunningham อดีตนักวิจัยในสถาบันฟุลไบรท์ ที่ผันตัวมาเป็นนักเขียนอิสระ อธิบายให้ฟังว่า WPI เป็นภาควิชาหนึ่งใน Marrymount ในแอลเอ เป็นมหาวิทยาลัยประเภทจ่ายครบจบแน่ (หมายเหตุบ.ก. – Royola Marymount University อยู่เวสเชสเตอร์ แอล.เอ.)
“WPI ไม่เป็นที่รู้จักในหมู่คนอเมริกันและคนทั่วไป เป็นสถาบันวิจัยระดับ Second Rate think tank,ซึ่งต่างกับสถานศึกษายุทธศาสตร์ นโยบายต่างประเทศนานาชาติ(CSIS) ที่มี CIA ปะปนอยู่มาก” คันนิ่งแฮมอธิบายว่า WPI ไม่เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือในหมู่นักการเมืองอเมริกันเหมือนกับ CSIS
“การเชิญทักษิณไปพูด ก็เป็นโอกาสที่ WPI ได้ประชาสัมพันธ์ตัวเองว่า มีมหาเศรษฐีอดีตนายกฯไปปรากฏตัว ในเวลาเดียวกันทักษิณก็ได้ประชาสัมพันธ์ตัวเองว่าได้ไปพูดในสถาบันนโยบายโลก คือต่างฝ่ายต่างหลอกใช้ซึ่งกันและกันเพื่อผลประโยชน์ของตัว ถามเมื่อไปพูดแล้วมีผลอะไรต่อนโยบายต่างประเทศอเมริกาไหม? ก็ตอบได้เลยว่าไม่มีผลอะไร”นายคันนิ่งแฮมกล่าว
เขากล่าวว่าสถาบันที่จัดให้ทักษิณไปพูด ไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วๆ ไป ดังนั้นการปรากฏตัวของเขาจะไม่เป็นที่สนใจของสื่อในอเมริกา นอกจากว่าทักษิณจะพูดในสิ่งที่เลวร้ายมาก แล้วล็อบบี้ยิสต์ชักชวนให้สื่อไปทำข่าว หรือไม่ก็มีคนไปประท้วงเป็นจำนวนมาก จนเป็นที่น่าสนใจของสื่อ
คงจริงดังว่า ถ้าทักษิณพูดในสิ่งที่เลวร้ายมาก สื่อในสหรัฐก็จะนำไปเผยแพร่ซึ่งไม่ต่างจากบ้านเราที่ความชั่วร้ายของระบอบทักษิณแย่งพื้นที่สื่อไปเกือบหมดตลอดเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาวันนี้จึงจำเป็นต้องนำข่าวดีและคนที่ทำความดีเพื่อชาติมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อปรับอารมณ์คนไทยบ้าง
ข่าวดีเรื่องแรก คือดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และอดีตเลขาฯอาเซียน เขียนเฟซบุ๊คว่า วันที่ 20-26 ก.พ. 2559 ผมมีภารกิจเดินทางไปหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเป้าหมายสำคัญของภารกิจครั้งนี้คือ เดินสายหาเสียงสนับสนุนให้ประเทศไทยได้รับเลือกเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในปี 2017-2018
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเป็นองค์กรหลักในการธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ ประเทศไทยเป็นสมาชิกสหประชาชาติในปี 1946 และเคยได้เป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในปี 1985-1986
การเลือกตั้งสมาชิกไม่ถาวร จะแบ่งตามกลุ่มภูมิภาค5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก กลุ่มแอฟริกา กลุ่มลาตินอเมริกาและแคริบเบียน กลุ่มยุโรปตะวันออก และ กลุ่มยุโรปตะวันตกและประเทศอื่น การจะได้รับเลือกนั้น จะต้องได้รับคะแนนเสียงจากประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 หรือ อย่างน้อย 129ประเทศจากทั้งหมด 193 ประเทศ โดยในปีนี้ตัวแทนจากเอเชียแปซิฟิก กลุ่มประเทศสมาชิกของสหประชาชาติจะต้องลงคะแนนเลือกระหว่างประเทศไทย กับ คาซัคสถาน
เนื่องด้วยภารกิจที่สำคัญนี้ ผมจึงได้ถูกเชิญตัวกลับมาช่วยในการหาเสียงเพื่อให้ประเทศไทยได้รับเลือกดำรงตำแหน่งนี้ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ การลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกไม่ถาวรจะจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นิวยอร์ก ในวันที่ 28 มิถุนายน ปีนี้ หากประเทศไทยได้รับเลือกจะดำรงตำแหน่งวาระ 2 ปี (ปี 2017-2018)
ณ ตอนนี้ ประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง อย่าง คูเวตโอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน จอร์แดน เลบานอน ให้การสนับสนุนประเทศไทยเป็นอย่างดี การได้รับเสียงสนับสนุนจาก คูเวต โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีความสำคัญเป็นอย่างมาก และส่งผลดีอย่างยิ่งต่อการได้รับเลือกของประเทศไทย
ณ เมืองคูเวตซิตี ผมเข้าพบท่าน Abdul Latif Yousef Al-Hamad ประธานกองทุนอาหรับสำหรับพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (Arab Fund for Economic and Social Development) และ ท่านSheikh Sabah Khalid Al Hamad Al Sabah รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ คูเวต ณ ประเทศโอมาน ผมเข้าพบ ท่านBadr Hamad Hamood Al Busaidi เลขาธิการ กระทรวงการต่างประเทศโอมาน ผู้แทนรัฐมนตรี ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผมเข้าพบ ท่าน Tariq AhmedAl-Haidan รัฐมนตรีช่วยด้านองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
ดร.สุรินทร์ มีต้นทุนสังคมสูงในประชาคมนานาชาติ ไม่มีตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาลนี้ ภารกิจครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการเสียสละเพื่อชาติอย่างแท้จริง
ข่าวดีอีกเรื่องคือ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เสนอ Misery Index หรือดัชนีความทุกข์จากภาวะเศรษฐกิจ พบว่า ประเทศไทยมีความสุขที่สุดในโลก “ผลสำรวจ Misery Index พบว่าไทยเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก เมื่อนำดัชนีผู้บริโภค ภาวะเงินเฟ้อและอัตราคนตกงานมาคำนวณรวมกัน ประเทศไทยทำคะแนนได้ดีตลอดมา เพราะอัตราการว่างงานอย่างเป็นทางการไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ ติดต่อกันมาหลายปี สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่มีงานทำ มีรายได้ ตั้งแต่ชาวไร่ชาวนา ลูกจ้างทั่วไป ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย มอเตอร์ไซค์รับจ้าง และอีกหลายอาชีพที่ไม่อยู่ในระบบบัญชีลูกจ้างของธนาคารแห่งชาติ เมื่อนำรายได้เหล่านี้มาคำนวณรวมกับลูกจ้างในระบบ จึงพบว่าประเทศไทยกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจซบเซาน้อยที่สุดในโลก คือมีความสุขที่สุดในโลกนั้นเอง”
Misery Index มีตารางเปรียบเทียบดัชนีความทุกข์จากเศรษฐกิจ ประเทศไทย 0.12 สิงคโปร์ 1.3 สวิตเซอร์แลนด์2.1ฮ่องกง 5.9 สหรัฐฯ 6.3 ยูเครน 49.3 ฯลฯ ส่วนเวเนซุเอลามีดัชนีความทุกข์สูงถึง 186.9 ทั้งๆ ที่เป็นประเทศที่มีน้ำมันสำรองมากที่สุดในโลก
นำรายงานนี้มาเสนอเพื่อให้เห็นว่าสิ่งที่นช.ทักษิณ และสมุนบริวารโจมตีว่า คสช.ทำให้เศรษฐกิจชาติเสียหายนั้น เป็นเรื่องคนทำความชั่ว ที่ใส่ร้ายคนอื่นว่าทำชั่วเหมือนตัวทำ เพราะแม้แต่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมัยที่เป็นนายกฯและมีทักษิณเป็นรองนายกฯได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจจนประเทศชาติล้มละลายมาแล้ว ยังมีหน้าโจมตี คสช.ว่า ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ
พล.อ.ชวลิตคงรับงานจาก นช.ทักษิณ เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งภายในปี 2559 ซึ่งได้รับการประสานเสียงจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่พูดว่า “ทุกคนอยากเห็นการเลือกตั้งโดยเร็ว การคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วจะทำให้ความเชื่อมั่น หรือเศรษฐกิจกลับมา” น.ส.ยิ่งลักษณ์อ้างว่าผู้ช่วยเลขาธิการยูเอ็นฝ่ายการเมือง ที่มาพบเธอก็เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว
นช.แม้ว ทุ่มเงินจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์/ล็อบบี้ยิสต์ ใช้เป็นปากเสียงขอการสนับสนุนจากนักการเมืองอเมริกัน วันที่ 9มี.ค.นี้ ที่ WPI ใน แอลเอ บริษัทประชาสัมพันธ์/ล็อบบี้ยิสต์คงจัดฉากเขียนสคริปต์ให้ น.ช.ทักษิณ พูดถึงประเทศไทยในสิ่งที่เลวร้ายที่สุด และพูดถึงสถานการณ์ตึงเครียดในทะเลจีนใต้ ตลอดถึงภัยคุกคามจากไอเอส เพื่อเรียกความสนใจจากสื่อและนักการเมืองอเมริกัน
นช.แม้วคงคิดย่ามใจที่ล็อบบี้ยิสต์สามารถจัดให้คนจากยูเอ็นมาพบกับน้องสาวได้ และบริษัทประชาสัมพันธ์ทำให้แย่งพื้นที่สื่อได้เกือบทั้งหมดกว่าหนึ่งสัปดาห์ ดังนั้นการไปพูดที่ WPI คงทำให้วอชิงตัน กดดัน คสช.มากขึ้น แต่นช.แม้ว คงลืมคิดไปว่า รัฐบาลที่มีนายดอน ปรมัตถ์วินัย ดูแลการต่างประเทศ และมีดร.สุรินทร์หนุนเสริม แผนการตื้นๆ ของล็อบบี้ยิสต์จึงถูกดักทางไว้ทุกขั้นตอนด้วยยุทธศาสตร์ต่างประเทศที่เหนือชั้นกว่า นช.แม้ว เสียเงินจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์อีกกี่พันล้านบาท ก็ลงเอยคำว่า “ถูกฝรั่งหลอกรับประทานอย่างเคย”
